แวนเนอร์ (Klap เอนเตอร์เทนเมนท์)
Vanner บอยแบนด์เคป๊อปกลับมาสู่แวดวงดนตรีอีกครั้งด้วย EP ที่ 3 “Burn” ในวันจันทร์ โดยจะร้องเพลงเกี่ยวกับความยากลำบากที่เยาวชนเผชิญในการเดินทางเพื่อบรรลุความฝันของตน
ความยากลำบากดังกล่าวเป็นที่คุ้นเคยสำหรับวงที่เดบิวต์ในปี 2019 ไม่นานก่อนที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้สิ่งต่าง ๆ หยุดนิ่ง “เราไม่ได้มีโอกาสได้แสดง แต่การชนะในรายการไอดอลเซอร์ไววัล ‘Peak Time’ ของ JTBC เมื่อปีที่แล้ว เราเริ่มได้รับความรักมากมายจากสาธารณชน” เฮซองแห่ง Vanner กล่าว “เราต้องการให้อัลบั้มนี้เข้าถึงผู้ฟังรุ่นเยาว์ของเรา” เขากล่าวเสริม
EP “Burn” มีหกแทร็กที่นำโดยโฟกัสแทร็ก “Automatic” ซึ่งเป็นเพลงแนวอิเล็กโทรพังก์และดิสโก้
คาดว่าการแสดงของเพลงนี้จะค่อนข้างแตกต่างจากการแสดงครั้งก่อนๆ ของวง
“เราเคยแสดงการแสดงที่ทรงพลังและมีพลังสำหรับเพลงนำก่อนหน้านี้ของเรา แต่สำหรับสิ่งนี้ เรามุ่งเน้นไปที่การดึงเอาเสน่ห์ของสมาชิกแต่ละคนออกมาให้ได้มากที่สุด เราทำงานอย่างพิถีพิถันในการแสดงออกทางสีหน้าและแม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของท่าเต้นของเรา” กอนแห่งแวนเนอร์กล่าว
Vanner วงสี่คนที่ประกอบด้วย แทฮวาน, กอน, ฮเยซอง, ซองกุก และยองกวาง กำลังโปรโมตอัลบั้มใหม่ในฐานะสี่วง เนื่องจากซองกุกเข้ารับราชการทหารเมื่อเดือนพฤษภาคม
ก่อนที่จะเข้ากรม ซองกุกสามารถมีส่วนร่วมในการบันทึกเพลง “Be Together” ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายในอัลบั้มนี้ นอกจากนี้เขายังเขียนท่อนแร็พของเพลงด้วย ซึ่งเขาได้รับการสนับสนุนให้เขียนทุกสิ่งที่เขาอยากพูดกับแฟนๆ “ทำนองมีความหวังมาก แต่เนื้อเพลงเศร้านิดหน่อย ความแตกต่างทำให้เป็นตัวเลขที่มีเสน่ห์” กอนกล่าว
“เขาสัญญาว่าเขาจะกลับมาแข็งแรงและมีจอย เขายังบอกด้วยว่ามันจะเป็นการอำลาชั่วคราวและขอให้แฟน ๆ ตั้งตารออนาคตที่สดใสที่รอเราอยู่” เฮซองกล่าว
ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนถึง 1 กรกฎาคม Vanner ได้ออกทัวร์เอเชียเดี่ยวครั้งแรก “The Flag: A to V” โดยแสดงในไต้หวัน ญี่ปุ่น และฮ่องกง
“มันเป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝันมานานแล้วอย่างแน่นอน การได้แสดงต่อหน้าแฟนๆ ทำให้เราอยากไปคอนเสิร์ตมากขึ้น เราหวังว่าจะปรับปรุงคุณภาพของคอนเสิร์ตของเราและเป้าหมายของเราคือการจัดขึ้นที่สนามกีฬาฟุตบอลโลกโซล” ยองกวางกล่าว
โดยทางกลุ่มบอกเป็นนัยว่าอาจจะไปต่างประเทศอีกครั้งก่อนสิ้นปีนี้
“เรามีแฟนๆ ในยุโรปและอเมริกาเหนือ แต่เราไม่ได้พบพวกเขามานานแล้ว ดังนั้นเรากำลังดำเนินการอยู่” แทฮวานกล่าว